การใช้ Core Tools IATF 16949 อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ทุกองค์กรต่างนำมาประยุกต์ใช้งานเป็นส่วนหนึ่งของระบบคุณภาพ แต่กลับพบว่าการนำ Core Tools มาใช้งานยังไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร

การเพิ่มประสิทธิภาพของการนำ Core Tools IATF 16949 มาใช้งาน

ในการนำระบบ IATF 16949 มาประยุกต์ใช้นั้น ถ้าจะไม่พูดถึง Core Tools (FMEA, SPC, MSA, APQP, PPAP) คงจะเป็นไปไม่ได้ ทุกองค์กรต่างนำมาประยุกต์ใช้งานเป็นส่วนหนึ่งของระบบคุณภาพ แต่กลับพบว่าการนำ Core Tools มาใช้งานยังไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร เป็นภาระขององค์กร และไม่ได้นำมาใช้งานตามจริง แต่กลับใช้เพื่อการตรวจประเมิน ไม่ว่าจะเป็นการตรวจประเมินโดยลูกค้าหรือโดย CB ซึ่งก็จะทำให้เกิดปัญหาความไม่สอดคล้องตามมาหากการใช้งาน Core Tools นั้นเป็นไปเพื่อการตรวจประเมิน ดังนั้นการนำ Core Tools มาใช้งานให้เกิดประสิทธิภาพจะช่วยลดภาระขององค์กร และได้ใช้ประโยชน์จาก Core Tools อย่างแท้จริง ด้วยข้อแนะนำดังต่อไปนี้

 

1. ฝึกอบรมทีมงานให้เข้าใจถึงวัตถุประสงค์ของแต่ละ Core Tools และการนำแต่ละ Core Tools นั้นไปใช้งานอย่างไร

นอกเหนือจากการวิธีการปฏิบัติตามคู่มือ Core Tools เช่น โดยทั่วไปแล้วทีมงานจะได้รับการอบรมวิธีการจัดทำ FMEA ตามคู่มือ แต่บางครั้งอาจไม่ทราบถึงวัตถุประสงค์ที่ต้องทำ FMEA และการนำ FMEA ไปใช้งานได้อย่างไรในการทำงานประจำวัน

 

2. การนำ Core Tools ไปใช้งานอย่างจริงจังเพื่อประโยชน์ของการพัฒนาผลิตภัณฑ์และกระบวนการผลิต

ปัญหาอย่างหนึ่งของการประยุกต์ใช้ Core Tools ก็คือ การจัดทำเอกสาร Core Tools ต่างๆเพื่อการตรวจประเมินหรือเมื่อลูกค้าร้องขอ แต่ไม่ได้นำไปใช้งานจริงๆ ทำให้เกิดปัญหาต่างๆตามมา รวมทั้งการอัพเดทเอกสารต่างๆของ Core Tools ยกตัวอย่างเช่น การนำ FMEA และ Control Plan มาใช้งานในการควบคุมกระบวนการผลิตนั้นจะเริ่มตั้งแต่การทดลองผลิตรุ่นใหม่ การควบคุมการผลิตในกระบวนการปัจจุบัน การเปลี่ยนแปลงทางวิศวกรรม การอัพเดทในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงกระบวนการผลิต รวมถึงการแก้ไขป้องกันจากข้อร้องเรียนของลูกค้า แต่หากองค์กรจัดทำ FMEA และ Control Plan เพื่อการตรวจประเมิน โดยไม่ได้นำมาใช้งานจริง ก็อาจทำให้กระบวนการผลิตไม่ได้ปรับปรุงและพัฒนาตามที่ได้ศึกษาไว้ใน FMEA และ Control Plan

 

3. ศึกษาการเชื่อมโยงกันของ Core Tools จะทำให้การใช้งาน Core Tools ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

นอกจากจะทำให้การใช้งาน Core Tools มีประสิืทธิภาพมากขึ้นแล้ว ยังจะทำให้เราทราบว่าในการเปลี่ยนแปลงต่อ Core Tools อันใดอันหนึ่งก็จะส่งผลกระทบต่อ Core Tools อื่นๆอย่างไรบ้าง เช่น ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงวิธีการตรวจสอบจากเวอร์เนียคาร์ลิปเปอร์ ไปเป็น Go-No Go Gage เราจะต้องทำการแก้ไข PFMEA ในหัวข้อการควบคุมกระบวนการในปัจจุบันรวมทั้งคะแนนของ Detection ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลต่อ Control Plan, MSA และอาจต้องส่ง PPAP ให้กับลูกค้าถ้าลูกค้าต้องการ จะเห็นได้ว่าการเปลี่ยนแปลงวิธีการวัดนั้นส่งผลกระทบต่อ Core Tools ต่างๆ ได้แก่ PFMEA, Control Plan, MSA และ PPAP

 

4. การประยุกต์ใช้ Core Tools ตาม CSR (ข้อกำหนดเฉพาะของลูกค้า)ซึ่งแตกต่างกันในแต่ละลูกค้า

เป็นสิ่งสำคัญในการนำ Core Tools ไปใช้อย่างถูกต้องตามที่ลูกค้าต้องการและมีประสิทธิภาพ หากองค์กรไม่เข้าใจใน CSR ก็มีโอกาสที่จะเกิดข้อผิดพลาดและต้องทำการแก้ไขในสิ่งที่ได้ทำไปแล้ว เช่น การศึกษาCpk การศึกษา MSA

 

เราสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการประยุกต์ใช้ Core Tools ได้ตามข้อแนะนำข้างต้น ติดตามรายละเอียดได้จากการสัมมนาของ STEMMA